คำขวัญหรือสโลแกน ตัวช่วยพืชทนร้อน-ทนแล้ง

GIFFARINE

by giffarine001.pw3.tht.pw

กิฟฟารีน ทำง่าย ๆ ออนไลน์ 100%

Green Trip เตรียมรับมือพืชฤดู ร้อน-แล้ง

รับมือพืชแล้ง/ร้อนจัด

สวัสดีครับเพื่อนๆทุกท่าน เริ่มเข้าช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็น

เดือนที่ประเทศไทยเราเข้าสู่ฤดูร้อนแล้วนะครับ

สภาพอากาศ อุณหภูมิจะสูงขึ้น มีแดดร้อนจัดและมีลมร้อนมาเป็นระยะ ซึ่งส่งผลกระทบกับพืชอย่างมาก พื้นที่ทำการเกษตรหลายๆ พื้นที่อาจประสบกับภัยแล้ง เราจึงจำเป็นที่จะต้องเตรียมรับมือ เพื่อให้พืชของเราสามารถเจริญเติบโตและยังสามารถให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่อง และมีคุณภาพผ่านช่วงร้อนแล้งนี้ไปได้ครับ

ในวันนี้ผมจึงจะมา แนะนำวิธีการเตรียมรับมือกับช่วงอากาศร้อน / แล้ง รวมไปถึงการ แนะนำผลิตภัณฑ์เกษตรจากกิฟฟารีน ตัวช่วยที่จะทำให้พืชสามารถ เจริญเติบโตได้ดี และยังสามารถให้ผลผลิตที่มีคุณภาพ พืชเจริญ เติบโตผ่านอากาศร้อนแล้งไปได้ จะมีผลิตภัณฑ์ตัวไหน แต่ละตัวช่วยอย่างไรบ้าง ตามผมมาชมเลยครับ

ผลิตภัณฑ์เกษตร ตัวช่วยให้พืชทน ร้อน / แล้ง

ท็อปเอ็น และ เจอร์มิเนท คู่หูที่ขาดไม่ได้ในช่วงนี้

ท็อปเอ็น คือ ไนโตรเจนที่ปลดปล่อยต่อเนื่อง (Slow Release)

เนื่องจากช่วงนี้การดูดธาตุไนโตรเจนจากดินอาจชะงัก เพราะอุณหภูมิดินและความขึ้นในอากาศต่ำ ปริมาณไนโตรเจนที่พืชได้รับน้อยและไม่ต่อเนื่อง เมื่อนำท็อปเอ็นไปฉีดพ่นทางใบพืช

พืชจะค่อยๆดูดซับ ท็อปเอ็น และค่อย ๆ นำไปใช้ ทำให้พืชได้รับไนโตรเจนไปใข้ในการเจริญเติบได้อย่างต่อเนื่องในช่วงนี้

อัตราการใช้ : 50 ชิซิ ต่อน้ำ 20 ลิตร

เจอร์มิเนท คือ กรดอะมิโน 19 ชนิด สกัดจากพืช

เจอร์มิเนท จะช่วยให้พืชปรับตัวในการสังเคราะห์เอนไซม์ในพืช ให้มีการสังเคราะห์เป็นปกติ เนื่องจากในช่วงที่อากาศร้อน หนาว หรือ

อากาศเปลี่ยนแปลงกะทันทัน พืชอาจจะชะงักการโตหรือโตช้าได้

เมื่อฉีดพ่นเจอร์มิเนทเข้าไป จะไปช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต ทำให้พืชไต้รับสารอาหารที่เปรียบเสมือนอาหารเสริม กระตุ้นการโตโดยตรง ทำให้พืชโต ต้นไม่ชะงักหรือหยุดการเจริญเดิบโตในช่วงนี้ได้

อัตราการใช้ : 5 ซีซี ต่อน้ำ 1 ลิตร (ใช้แช่เมล็ด) หรือ 25 ซีซี

ต่อน้ำ 20 ลิตร (ใช้ฉีดพ่นทางใบ)

ลดต้นทุนปุ๋ย ด้วย ปุ๋ยกิฟฟารีน

สมัครรับส่วนลด 25%

โบโรแคล ธาตุแคลเชียม-โบรอน

ช่วยเรื่องการแตกราก ตั้งต้น เพิ่มความ แข็งแรงของต้น รวมไปถึงช่วยในการผสมเกสร การติดดอก ลดการหลุดร่วงของผล

ช่วยป้องกันผลแตก ให้ผลสวยและไม่ช้ำเวลาขนส่ง (แนะนำให้ใช้โบโรแคลทุกครั้งในการพ่นปุ้ยทางใบ ควบคู่กับสารเสริมประสิทธิภาพเกรทกรีน)

อัตราการใช้ : 5-10 กรัม ต่อน้ำ 20 ลิตร (ในช่วงอากาศร้อน พืชอ่อนแอไม่ค่อยแข็งแรง หรือเป็นโรค สามารถใช้ 15 กรัม ต่อน้ำ 20

ลิตรได้)

บลูคีเลต ธาตุทองแดง ช่วยในการสังเคราะห์แสง กระบวนการหายใจ ช่วยสร้างขั้นโปรตีนลิกนินที่ผนังเซลล์พืช ให้ผนังเซลล์พืชแข็งแรงมากขึ้น ช่วยตรึงในโตรเจน ช่วยทำให้พืชสามารถใข้อาตุเหล็กและสังกะสีได้มากขึ้น ส่งผลให้ปลายยอดและรากเจริญเติบโตได้ดีในช่วงอากาศร้อน จะช่วยทำให้ใบยังเขียวสดมันวาว ใบพืชไม่สลด

อัตราการใช้ : 3 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร แนะนำพ่นในช่วงที่ใบพืช

เป็นระยะ ใบเพสลาด ใบเป็นสีเขียวอ่อนๆ แล้ว (ในช่วงสู้แล้ง ใช้

1-2 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร พ่นทุกๆ 20 วัน)

เกรทวอลล์ ธาตุซิลิกอน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของผนังเซลล์ด้วยชั้นซิลิกาเลเยอร์ ทำให้ท่อน้ำท่ออาหารของพืชแข็งแรง ช่วยให้พืชทนทานต่อความเครียดที่เกิดจากสิ่งมีชีวิต (เช่น โรคแมลง) และจากสิ่งไม่มีชีวิต (เช่น อากาศร้อน แล้ง หนาว) ช่วยในการพัฒนาระบบรากของพืช เหมาะมากๆ ที่จะใช้ในช่วงฤดูร้อนนี้ เนื่องจากช่วงนี้ต้นพืชจะค่อนข้างอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย การพ่นเสริมเกรทวอลล์ ก็จะช่วยเสริมเหมือนเกราะป้องกัน ให้กับพืชได้ดี ช่วยให้พืชเติบโตข้ามแล้งไปได้

อัตราการใช้ : 5-10 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร สามารถผสมพร้อมยาได้

ท็อปเค เป็น ธาตุโพแทสเซียมและกำมะถัน ใช้เพื่อช่วยยับยั้ง

การแตกใบอ่อนในการเจริญเติบโตทางลำต้นและใบ เพื่อการ

สะสมอาหาร เพื่อการออกดอก และใช้เพื่อช่วยเร่งให้ผลไม้สุกเร็ว

เพิ่มความหวานและการแก่ของผลผลิตได้

ยิ่งไปกว่านั้นในช่วง อากาศร้อนแบบนี้ ท็อปเคจะทำหน้าที่มีส่วนช่วยในการเปิด-ปิดของปากใบพืช ลดการสูญเสียน้ำจากปากใบ ทำให้ปลายใบไม่เหี่ยว สามารถเจริญเติบโตได้ดี

อัตราการใช้ : 30 ซีซี ต่อน้ำ 20 ลิตร

คำแนะนำ การดูแลพืษไร่ ไม้ดอกและพืชผักในช่วงฤดูร้อน

สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชไร่ ไม้ดอกและพืชผัก เนื่องจากในฤดูร้อน ปริมาณและการกระจายของฝนมีน้อย ปริมาณน้ำระเหยมีมาก โดยเฉพาะบริเวณผิวดิน ฉะนั้นจึงควรให้น้ำแก่พืชอย่างเพียงพอ เพราะหากพืชได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้ต้นเหี่ยวเฉา ควรให้น้ำครั้งละน้อย" แต่บ่อยครั้งและควรให้น้ำในช่วงเช้าหรือช่วงเย็น ที่ไม่มีแดดร้อนจัดเพื่อลดการสูญเสียน้ำจากการระเหย เกษตรกรควรคลุมดินบริเวณแปลงปลูกพืชด้วยวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ใบไม้ ฟางข้าว และหญ้าแห้ง เป็นต้น

เพื่อลดการระเหยของน้ำบริเวณผิวดิน และรักษาความชื้น อุณหภูมิภายในดินด้วย

คำแนะนำการดูแลไม้ผลในช่วงฤดูร้อน

ไม้ผลที่อยู่ในระยะเจริญเดิบโตทางผล ควรดูแลให้น้ำอย่างเพียงพอ

เช่นเดียวกับในพืชไร่ ไม้ดอกและพืชผัก ถ้าได้รับน้ำไม่เพียงพอจะทำให้

ผลชะงักการเจริญเติบโต ถ้าขาดน้ำอาจทำให้ผลผลิตร่วงหล่น เสียหาย

และคุณภาพด้อยลง

นอกจากนี้ควรเฝ้าระวังการระบาดของศัตรูพืช จำพวกปากดูด เช่น ไรและเพลี้ยชนิดต่างๆ ซึ่งตัวอ่อนและตัวเต็มวัยเหล่านี้จะดูดกินน้ำเลี้ยงจากพืช ทำให้ต้นพืชทรุดโทรม การผลิ ดอก ออกผลลดลง สามารถใช้ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืชร่วมกับการใช้ปุ๋ยกิฟฟารีน เพื่อเป็นการป้องกันและเสริมความแข็งแรงให้กับพืชก่อนได้เลย

ทั้งหมดนี้เป็นคำแนะนำการดูแลพืช และแนะนำผลิตภัณฑ์เกษตรตัวช่วยดีๆ จากกิฟฟารีน ที่จะช่วยให้พืขของเราสามารถเจริญเติบโตผ่านสภาพอากาศร้อนและแล้ง ในช่วงฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงนี้ไปได้

อยากให้ทุกท่านคำนึงถึงเสมอนะครับว่า พืชก็มีชีวิตเหมือนกับร่างกาย

ของเรา หากอยากให้เขาแข็งแรง ไม่ป่วย และให้ผลผลิตที่ดี เราจำเป็น

ที่จะต้องให้อาหารให้การดูแลที่ดี เหมือนการที่เราดูแลร่างกายของเรา

เองนั่นแหละครับ ผมเชื่อว่าหากทุกท่านให้การดูแลที่ดี ให้ธาตุอาหารที่

เหมาะสมที่พืชต้องการ อย่างที่กิฟฟารีนเรามีครบและคอยแนะนำอยู่เสมอ คุณภาพผลผลิต ผลลัพธ์ ผลตอบแทนที่ได้คุ้มค่าแน่นอนครับ

สุดท้ายนี้ หากท่านใดอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เกษตร หรือความรู้เกษตรด้านอื่นๆ สามารถแวะเข้ามาสอบถามพูดคุยกันได้ที่

บรรยายภาพ

ภาพ ประกอบ 1-3 ท็อปเอ็นและเจคร์มิเนท คู่หูตัวช่วยให้พืชทนร้อน / แล้ง ใช้คู่กันจะช่วยกระตุ้นการโตและช่วยให้พืซสามารถ เติบโตต่อเนื่อง ข้ามแล้งไปได้

ภาพ ประกอบ 4 ผลิตภัณฑ์เสริมตัวอื่น ๆ ที่ช่วยเสริมให้พืขแข็งแรง ป้องกันการเข้าทำลายของโรคและแมลง ช่วยให้ต้น ใบราก พืขสามารถเจริญเติบโตได้ดีในช่วงกระทบอากาศร้อนและแล้ง

ภาพ ประกอบ 5-7 สวนลำไยที่ จ.เขียงใหม่ กระทบแล้งไม่ค่อยได้น้ำ แต่ได้ปุ๋ยกิฟฟารีนช่วย ยังสามารถทำให้ลำไยออกผลผลิตดี และมีคุณภาพได้เบอร์ใหญ่ ผลไม่ค่อยแตกและไม่ค่อยหลุดร่วง

ภาพ ประกอบ 8-9 นาข้าวที่เพิ่งหว่านเมล็ดไป แล้วแช่เมล็ดก่อนหว่านด้วยเจอร์มิเนท แม้ในช่วงอากาศร้อน ต้นข้าวก็งอกได้ดี งอกออกมาเสมอ เกือบทั่วทั้งแปลง

ภาพ ประกอบ 10-11 นาข้าวออกรวงสวย สีเหลืองทองทั่วทั้งแปลง เมล็ดเต่งมีน้ำหนัก แปลงนี้ใช้ท็อปเอ็นและเกรทวอลล์มาตลอด

ตั้งแต่ข้าวอายุ 20 วัน ทำให้ต้นแข็งแรงโตต่อเนื่องได้ดี ไม่ค่อยมีโรคและแมลงเข้าทำลาย

ภาพ ประกอบ 12-14 มันสำปะหลัง พืชที่โตในช่วงฤดูร้อน / แล้ง ใช้สูตรปุ๋ยจากกิฟฟารีน ทำให้ต้นใบแข็งแรง ส่งผลให้มีอาหารสะสมที่ดีลงหัว ทำให้มันหัวใหญ่ มีน้ำหนัก ได้แป้ง เทียบขนาดหัวและคุณภาพได้ใหญ่กว่าแปลงที่ไม่ใช้

ภาพ ประกอบ 15-17 ดาวเรืองที่ปลูกเพื่อตัดดอกขาย เกษตรกรชอบใช้ท็อปเอ็นและบลูคีเลตพ่นเสมอ ช่วยให้ต้นโตดี ติดดอกออกเยอะ ดอกสวย ใหญ่ ดอกดูแน่นสมบูรณ์ เป็นที่ต้องการของตลาดมาก